ใบขับขี่หมดอายุต้องทำอย่างไร (อัพเดตปี 2567)
ใบขับขี่ (Driving License) ถือเป็นเอกสารที่สำคัญมาก ๆ สำหรับผู้ใช้ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ซึ่งอายุของใบขับขี่นั้นมีทั้งหมด 2 ประเภท คือ แบบ 2 ปี (ชั่วคราว) และแบบ 5 ปี ถ้าหากคุณปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุถือว่าคุณได้ทำผิดกฎหมายจราจรไปแล้วนอกจากคุณจะต้องเสียค่าปรับ คุณอาจจะต้องสอบใบขับขี่ใหม่เลยก็ได้ ซึ่งถ้าหากคุณกำลังสงสัยว่า ใบขับขี่หมดอายุต้องทำอย่างไร (อัพเดตปี 2567) ในบทความนี้ โตโยต้า ชัวร์ กาญจนบุรี รถมือสอง ของเรามีคำตอบมาฝาก ถ้าพร้อมแล้วไปหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง ใบขับขี่หมดอายุต้องทำอย่างไร (อัพเดตปี 2567) ไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ ใบขับขี่หมดอายุ ใบขับขี่ ต่ออายุใบขับขี่ สอบใบขับขี่
ต้องต่ออายุใบขับขี่ภายในกี่วัน?
ตามระยะเวลาที่สำนักงานขนส่งได้กำหนดไว้ เมื่อใบขับขี่หมดอายุจะต้องต่ออายุภายใน 1 ปี เนื่องจากระยะเวลานี้สามารถยื่นคำขอขอต่อใบขับขี่ได้ โดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าปรับจ่ายแค่เพียงค่าธรรมเนียมตามปกติ แต่ถ้าหากคุณกลัววาจะลืมต่อจนนานเกินไปจนถึงขั้นต้องสอบใหม่ ก็สามารถยื่นคำขอต่อใบขับขี่ล่วงหน้า ได้ตั้งแต่ 180 วัน หรือภายใน 6 เดือน ก่อนที่ใบขับขี่จะหมดอายุ
ใบขับขี่หมดอายุ “ไม่จำเป็นต้องสอบใหม่”
หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินมาว่าเมื่อ ใบขับขี่หมดอายุ จะต้องสอบใหม่ทุกครั้งเลยจริงหรอ ? คำตอบคือ “ไม่จริงเสมอไป” เนื่องจากสำนักงานขนส่งได้กำหนดกฎเกณฑ์ระยะเวลาการต่ออายุใบขับขี่ไว้อยู่แล้ว ซึ่งผู้ขับขี่ที่มีใบขับขี่ทุกคนควรศึกษาและทำความเข้าใจ รวมถึงรู้กำหนดกฎเกณฑ์ระยะเวลาการต่อ ก่อนจะปล่อยให้ใบขับขี่ของคุณหมดอายุโดยไม่รู้ตัว
หมดอายุ ไม่เกิน 1 ปี “สามารถต่อได้เลย”
ใบขับขี่หมดอายุ ไม่เกิน 1 ปี หรือหมดอายุภายใน 1 เดือน ผู้ขับขี่สามารถทำเรื่องต่อใบขับขี่ได้ที่สำนักงานขนส่งใกล้บ้านคุณ โดยไม่ต้องจ่ายค่าปรับและไม่ต้องสอบใหม่ เพียงแค่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการต่ออายุ ตามที่ทางสำนักงานขนส่งได้กำหนดไว้
หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี “ต้องสอบข้อเขียนใหม่”
ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ผู้ขับขี่จะต้อง “สอบข้อเขียน” ผ่านระบบ E-exam ใหม่อีกครั้ง (จำนวน 50 ข้อ) และจะต้องทำคะแนนให้ได้ถึง 90% หรือพูดง่าย ๆ ก็คือต้องทำข้อสอบให้ถูกต้อง 45 ข้อ จาก 50 ข้อนั่นเอง หากสอบไม่ผ่าน ผู้ขับขี่จะต้องสอบใหม่อีกครั้งจนกว่าจะผ่าน
หมดอายุเกิน 3 ปีขึ้นไป “ต้องอบรมและสอบใหม่”
ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี ผู้ขับขี่จำเป็นจะต้อง “เข้ารับการอบรม” และ “สอบข้อเขียน” ผ่านระบบ E-exam ใหม่อีกครั้ง และต้องสอบขับรถใหม่ทั้งหมด หรือพูดง่ายๆ ก็คือต้องเริ่มใหม่เหมือนตอนที่ทำใบขับขี่ครั้งแรก ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเข้าไปทำแบบทดสอบเสมือนจริงได้ที่ เว็บไซต์ : ฝึกทำข้อสอบใบขับขี่ เพื่อเป็นการทบทวนความรู้และข้อกฏหมายจราจร เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการทำข้อสอบจริงอีกครั้ง
ขั้นตอนและเอกสารที่ต้องใช้ต่ออายุใบขับขี่
เมื่อใบขับขี่ของคุณนั้นหมดอายุ หรือคุณต้องการต่ออายุใบขับขี่ล่วงหน้า คุณจะต้องเตรียมเอกสาร พร้อมกับศึกษาขั้นตอนดังต่อไปนี้
เอกสารที่ใช้ต่อใบขับขี่
- ใบขับขี่เดิม หรือ ใบขับขี่ชั่วคราว (ประเภท 2 ปี)
- บัตรประจำตัวประชาชน ที่ยังไม่หมดอายุ
- ใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 1 เดือน
ขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่
- เตรียมเอกสารสำหรับต่อใบขับขี่ให้ครบ
- เข้ารับการอบรมผ่าน DLT e-Learning ซึ่งจะใช้เวลา 1 ชั่วโมง
- จองคิวผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue หรือ Walk in ได้ทันที
- ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย
- ทดสอบการมองเห็นสีที่จำเป็นในการขับรถ
- ทดสอบสายตาทางลึก
- ทดสอบสายตาทางกว้าง
- ทดสอบปฏิกิริยาเท้า ในการเหยียบเบรกหลังเห็นสัญญาณไฟ
- ชำระค่าธรรมเนียม ถ่ายรูปติดใบขับขี่ และรับใบขับขี่
ค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบขับขี่
- ใบขับขี่รถยนต์ 5 ปี ค่าธรรมเนียม 500 บาท และค่าคำขอ 5 บาท
- ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ 5 ปี ค่าธรรมเนียม 250 บาท และค่าคำขอ 5 บาท
ผู้ขับขี่สามารถเดินทางไปดำเนินการได้ที่สำนักงานขนส่งในพื้นที่ได้ทุกวัน ตามเวลาราชการ 08:00-15:30 น. โดยไม่จำเป็นต้องไปต่ออายุที่สำนักงานขนส่งตามภูมิลำเนาในทะเบียนบ้าน จองคิวเพื่อเข้าใช้บริการตามวันและเวลาที่สะดวกผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ได้เลย
ใบขับขี่หมดอายุ โทษมีอะไรบ้าง?
สำหรับคนที่สงสัยว่าใบขับขี่หมดอายุ ปรับเท่าไหร่ ? ตามหลักกฎหมายว่าด้วย พรบ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 ระบุโทษปรับกรณีไม่มีใบขับขี่ ไม่พกใบขับขี่ หรือ ใบขับขี่หมดอายุ ปรับตามโทษดังนี้
- ความผิดตามมาตรา 64 ขับรถไม่มีใบอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ความผิดตามมาตรา 65 ใบขับขี่หมดอายุ ถูกยึดใบขับขี่ มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
- ความผิดตามมาตรา 66 มีใบขับขี่แต่ไม่แสดงให้เจ้าหน้าที่เห็น ไม่ได้พกใบขับขี่ มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
ตามกฎหมายจราจร มาตรา 141 ระบุไว้ว่า เมื่อผู้ขับขี่เจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถได้รับใบสั่งตามมาตรา 140 แล้ว ให้ชำระค่าปรับภายในเวลาที่กำหนดไว้ในใบสั่ง ด้วยวิธีการอย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้
- ชำระค่าปรับโดยการส่งธนาณัติ หรือสั่งตั๋วแลกเงินของธนาคารทางไปรษณีย์ ลงทะเบียนสั่งจ่ายให้แก่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพร้อมแนบสำเนาใบสั่งไปยังสถานที่ที่ระบุไว้ในใบสั่ง หรือโดยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเครดิต หรือวิธีการอื่น โดยผ่านธนาคารหรือหน่วยบริการรับชำระเงิน ตามจำนวนที่ระบุไว้ในใบสั่ง
- ชำระค่าปรับที่สถานีตำรวจโดยชำระตามจำนวนที่กำหนดไว้ในใบสั่ง หรือตามจำนวนที่พนักงานสอบสวนเปรียบเทียบ และในกรณีนี้ให้พนักงานสอบสวนทุกท้องที่ มีเขตอำนาจในการเปรียบเทียบปรับได้ทั่วราชอาณาจักร เมื่อผู้ได้รับใบสั่งได้ชำระค่าปรับครบถ้วน ถูกต้องแล้ว ให้คดีเป็นอันเลิกกัน
ถ้าใบขับขี่หมดอายุ แล้วไม่จ่ายค่าปรับจะเกิดอะไรขึ้น?
กรณีที่ผู้ขับขี่ เจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถรู้ว่าใบขับขี่หมดอายุ แล้วปล่อยไว้แบบนั้นจนทำให้มีความผิดฐาน ใบขับขี่หมดอายุ และไม่ชำระค่าปรับภายในระยะเวลาที่กำหนด เจ้าพนักงานจราจรจะดำเนินการแจ้งนายทะเบียน “ให้งดการออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปีสำหรับรถคันนั้น” และแจ้งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป
นอกจากจะต้องระวังไม่ให้ ใบขับขี่หมดอายุ เพื่อหลีกเลี่ยงใบขับขี่หมดอายุโทษปรับแล้ว ในเรื่องของ “ประกันภัยรถยนต์” ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากปล่อยให้หมดอายุคงไม่ดีแน่ คุณควรศึกษาข้อมูล รายละเอียดเงื่อนไขในการคุ้มครองของแต่ละประเภทให้เข้าใจก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะประกันแต่ละประเภทมีเงื่อนไขการคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป
ก็จบไปแล้วนะคะ สำหรับสาระความรู้เกี่ยวกับเรื่อง ใบขับขี่หมดอายุต้องทำอย่างไร อัพเดตปี 2567 ทีมงาน โตโยต้า ชัวร์ กาญจนบุรี รถมือสอง ของเรารวบรวมข้อมูลมาแต่หัวข้อที่เป็นประเด็นสำคัญ ๆ มาให้เพื่อนได้อ่านกัน หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ และช่วยให้เพื่อนๆ ได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการต่อใบขับขี่มากขึ้นนะคะ
สามารติดตามข้อมูลได้จากเว็บไซต์ : กรมการขนส่งทางบก (dlt.go.th)
รถมือสอง พร้อมโปรโมชั่น และเงื่อนไขการรับประกันดีๆ สามารถเข้ามาดูได้ที่ : www.toyotasurekan.com
รีไฟแนนซ์รถยนต์ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : www.toyotasurekan.com/รีไฟแนนซ์-รถยนต์-กาญจนบุรี
เกร็ดความรู้ดีๆ สามารถติดตามได้ที่ : www.toyotasurekan.com/เกร็ดความรู้