ขับเคลื่อน 2 ล้อ กับ 4 ล้อ ต่างกันอย่างไร
การซื้อรถยนต์ในปัจจุบัน นอกจากเราจะต้องเลือกรุ่นรถ ยี่ห้อรถ และสีรถให้ตรงกับความชอบของเราแล้ว ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่อง เราควรจะเลือกรถยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อ หรือ 4 ล้อ แบบไหนดีกว่ากัน และก่อนที่เราจะซื้อรถ ก็ต้องมาพิจารณาถึงการใช้งานส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ได้รถยนต์ที่ตรงตามความต้องการของเราที่สุด ซึ่งวันนี้ โตโยต้า ชัวร์ กาญจนบุรี รถมือสอง มีความรู้เกี่ยวกับเรื่อง ขับเคลื่อน 2 ล้อ กับ 4 ล้อ ต่างกันอย่างไร มาฝากเพื่อน ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อรถกันค่ะ
รถยนต์ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ
รถยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อ เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน สามารถใช้เดินทางบนท้องถนนปกติ เน้นใช้ในเดินทางบนทางเรียบและการเดินทางในเมืองเป็นหลัก รถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ส่วนใหญ่จะเป็นรถ Eco Car รถเก๋งทั่วไป รถ SUV รวมไปถึง รถปิคอัพ หรือรถที่ใช้เพื่อการขนส่งบางยี่ห้อ เป็นต้น
โดยรถยนต์ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ Front-Wheel Drive (FWD)
- ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง หรือ Rear-Wheel Drive (RWD)
1. ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ Front-Wheel Drive (FWD)
ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) เป็นระบบขับเคลื่อนที่พบมากที่สุด จะเป็นระบบขับเคลื่อนที่นิยมใช้ในรถยนต์โดยสารทั่วไป เหตุผลเพราะผลิตง่าย ไม่ซับซ้อน กินพื้นที่ห้องโดยสารน้อย ทำให้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าทำอัตราเร่งได้ดี
2. ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง หรือ Rear-Wheel Drive (RWD)
ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) เป็นระบบที่มักจะพบได้ในรถยนต์ระดับพรีเมียม และรถยนต์ที่มีสมรรถนะที่สูง สามารถควบคุมได้ดีกว่า เนื่องจากการกระจายน้ำหนักมีความสมดุลกันมากขึ้น ระหว่างด้านหน้าและด้านหลัง
ข้อดีและข้อเสียของรถยนต์ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ
ข้อดี : มีสมรรถนะในการเร่งสูง เพราะแรงขับจะถูกส่งไปยังล้อคู่หน้าโดยตรง
ข้อเสีย : ต้องระวังเรื่องการยึดเกาะถนนได้ไม่ดีพอ รถมักจะมีอาการดื้อหน้า เลี้ยวไม่ค่อยไป เนื่องจากยางคู่หน้ารับน้ำหนักเครื่องยนต์เยอะ ทำให้น้ำหนักของรถไม่บาลานซ์กัน ในระยะที่รถเข้าโค้งอาจเสียการทรงตัวได้ง่ายกว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
รถยนต์ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ เหมาะกับการใช้งานที่มีความท้าทายมากขึ้น เช่น การเดินทางในเส้นทางที่สมบุกสมบัน ขึ้นเขาลงห้วย หรือคนที่ต้องเดินทางบนถนนลูกรัง และทางที่เป็นหลุมบ่อบ่อย ๆ จำเป็นจะต้องมีสมรรถนะที่สูงขึ้น เนื่องจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จะออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานในไร่ นา สวน รถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่วนใหญ่จะเป็นรถยุโรป รถ SUV รถออฟโรด (Offroad) หรือรถลุยป่า เป็นต้น
โดยรถยนต์ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
- ระบบขับเคลื่อนแบบพาร์ทไทม์ (Part-time 4WD)
- ระบบขับเคลื่อนแบบฟูลไทม์ (Full-time 4WD)
- ระบบขับเคลื่อน 4WD แบบอัตโนมัติ
1. ระบบขับเคลื่อนแบบพาร์ทไทม์ (Part-time 4WD)
ระบบขับเคลื่อนแบบพาร์ทไทม์ (Part-time 4WD) โดยทั่วไปแล้วจะใช้งานแบบระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ในการขับขี่กับบนถนนที่ปกติ แต่ถ้าหากต้องการใช้กับสภาพถนนที่ขรุขระอย่างรุนแรง ผู้ขับขี่จะต้องเปลี่ยนเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยตนเอง และเมื่อกลับมาขับบนถนนปกติแล้ว ผู้ขับสามารถเปลี่ยนมาเป็นระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ได้เหมือนเดิมค่ะ
2. ระบบขับเคลื่อนแบบฟูลไทม์ (Full-time 4WD)
ระบบขับเคลื่อนแบบฟูลไทม์ (Full-time 4WD) เป็นระบบทีเครื่องยนต์จะส่งกำลังไปยังแต่ละล้ออยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายกับระบบขับเคลื่อน เนื่องจากมีเฟืองทดรอบล้อหน้าเอาไว้ เพื่อรับมือกับยางรถที่จะหมุนด้วยความเร็วที่แตกต่างกันในระหว่างที่มีการเลี้ยวรถ
3. ระบบขับเคลื่อน 4WD แบบอัตโนมัติ
ระบบขับเคลื่อน 4WD แบบอัตโนมัติ เป็นการผสมกันระหว่างระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เพียงแต่ระบบจะเปลี่ยนเป็นโหมด 2WD หรือ 4WD ก็ขึ้นอยู่กับสภาพถนนที่เจอ ณ ตอนนั้น นั่นเองค่ะ
ข้อดีและข้อเสียของรถยนต์ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
ข้อดี : มีการกระจายน้ำหนักตัวรถดีดว่าระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ น้ำหนักของรถกับเครื่องยนต์บาลานซ์กัน สามารถรองรับขนาดเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ที่มีแรงม้าสูง
ข้อเสีย : เนื่องจากรถมีกำลังเครื่องยนต์ที่สูง การเข้าโค้งขณะที่รถมีความเร็ว อาจจะให้รถมีอาการท้ายปัดได้ และรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่าระบบขับเคลื่อน 2 ล้อนั่นเอง
ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ กับ 4 ล้อ ต่างกันอย่างไร ?
สรุปสั้นๆ ก็คือ ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เหมาะกับการขับในเมืองหรือทางปกติ สามารถยึดเกาะกับทุกสภาพถนนได้ดีในระดับนึง ส่วนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ นั้นเหมาะกับคนที่ชอบการผจญภัย ชอบขับ Off-Road หรือถนนที่ลื่นกว่าปกติ ขับบนทางขรุขระได้นั่นเองค่ะ
คราวนี้เราก็ทราบแล้วว่าการขับเคลื่อนรถยนต์ทั้ง 2 ระบบนี้ ต่างกันอย่างไร ดังนั้นการเลือกซื้อรถที่เหมาะกับการใช้งาน คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แต่ถึงแม้ว่าระบบของรถยนต์ จะช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่ให้เราได้มากน้อยแค่ไหน ก็พึงระลึกไว้เสมอว่าไม่ควรขับขี่รถบนท้องถนนด้วยความประมาท เคารพกฎจราจร มีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมทางจะดีที่สุด เพื่อความปลอดภัยต่อตัวคุณ และคนที่คุณรักกัน โตโยต้า ชัวร์ รถมือสอง กาญจนบุรี โตโยต้า ชัวร์ รถมือสอง กาญจนบุรี
รถมือสอง พร้อมโปรโมชั่น และเงื่อนไขการรับประกันดีๆ : www.toyotasurekan.com
รีไฟแนนซ์รถยนต์ : www.toyotasurekan.com/รีไฟแนนซ์-รถยนต์-กาญจนบุรี
เกร็ดความรู้ดีๆ : www.toyotasurekan.com/เกร็ดความรู้